2 มหามิตร AEC ไทย-มาเลเซีย
เบตงใต้สุดสยาม-ปีนังยุคใหม่ 4วัน 3คืน
Thai Lion Air / Airasia

04.30 น.

คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานดอนเมือง ณ อาคารผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ ชั้น 3 ประตู 11 เคาน์เตอร์เช็คอิน THAI  LION AIR โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอินและโหลดสัมภาระก่อนขึ้นเครื่อง

06.20 น.

เดินทางสู่สนามบินหาดใหญ่ โดยสายการบิน THAI  LION  AIR  เที่ยวบินที่ SL702

07.50 น.

คณะเดินทางถึงสนามบินหาดใหญ่  Driver Guide (คนรถเป็นไกด์ในตัวที่ชำนาญเส้นทางเบตง) คอยให้การต้อนรับคณะ นำคณะขึ้นรถตู้วีไอพีปรับอากาศแบบ 9 ที่นั่ง เพื่อเดินทางสู่อำเภอเบตง  ซึ่งเป็นอำเภอที่ตั้งอยู่ใต้สุดของประเทศไทย โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง โดยรถจะวิ่งผ่านเขตจังหวัดสงขลา ปัตตานี และยะลา  เป็นทางหลวงที่มีการจราจรที่ พลุกพล่าน และมีความปลอดภัยสูง ระหว่างทางท่านสามารถมองเห็นชายฝั่งทะเลอ่าวไทย  ชุมชนชาวมุสลิม และผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ของเทือกเขาสันกาลาคีรี ระหว่างทางนำคณะ แวะจังหวัดปัตตานี สักการะเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ณ ศาลเจ้าลิ้มกอเหนี่ยว ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองปัตตานี เป็นที่ประดิษฐานองค์เจ้าแม่ ลิ้มกอเหนี่ยว เป็นศูนย์รวมจิตใจและความศรัทธาของชาวไทยเชื้อสายจีนในปัตตานี และเขตสามจังหวัดภาคใต้..จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ วัดช้างให้ นมัสการหลวงปู่ทวด วัดช้างให้  ตั้งอยู่ที่ตำบลควนโนรี อำเภอโคกโพธิ์ เป็นวัดเก่าแก่สร้างมาแล้วกว่า 300 ปี วัดช้างให้ ถือว่าเป็นวัดต้นตำรับของหลวงปู่ทวด เพราะท่านเป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดและอัฐิของท่านก็ถูกบรรจุไว้ที่วัดแห่งนี้ วัดช้างให้จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อและเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของจังหวัดปัตตานีที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามากราบ  สักการะหลวงปู่ทวดอย่างไม่ขาดสาย ที่เรียกว่าเมื่อมาถึงปัตตานีดินแดนแห่งปลายด้ามขวานแล้วต้องแวะมา  ไกด์ท้องถิ่นประจำเมืองเบตง คอยให้การต้อนรับคณะที่ร้านอาหารในเมืองเบตง

เที่ยง

บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาราน​อาหาร​ธารา​หรือ​ลุง​ดำ​    (มื้อที่1)
หลังอาหารนำท่านเดินทางต่อสู่เบตง แวะพักเก็บภาพบนสะพานเหนือเขื่อนบางลาง

16.30 น.

นำคณะเดินทางถึงเมืองเบตง เมืองซึ่งเป็นชุมชนคนไทยเชื้อสายจีนที่โอบล้อมด้วย  ขุนเขาและป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ มีประเพณีวัฒนธรรมแบบจีนที่สืบทอดมายาวนาน ผสมกลมกลืนกับวัฒนธรรมมุสลิมท้องถิ่นอย่างลงตัว อันเป็นเอกลักษณ์ เฉพาะของเมืองเบตง

เย็น

บริการอาหารค่ำ ณ ร้านอาหารครัวสมุย หรือบ้านคุณชาย  (มื้อที่2)  
หลังอาหารนำคณะเดินทางเข้าที่พัก ณ โรงแรม Grandview Landmark Hotel​  

04.30 น.

นำคณะเดินทางสู่สะพานกระจกหรือ SKY WALK ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาที่อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 2000 ฟุต ที่นี่เป็นจุดชมวิวบนเขาที่สามารถมองเห็นวิวของทะเลหมอกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย ท่านสามารถเดินผ่านสะพานกระจกใสที่ยื่นออกไปท่ามกลางหุบเขา ท่ามกลางทะเลหมอกที่สุดอลังการที่อยู่เบื้องล่าง ให้ท่านเช็คอิน ถ่ายภาพจนสมควรแก่เวลา (นักท่องเที่ยวที่จะขึ้นสะพานกระจก ต้องซื้อถุงครอบรองเท้าในราคาคู่ละ 30 บาท ตรงจุดตรวจนักท่องเที่ยว เพื่อครอบทับรองเท้า จึงสามารถเข้าไปเดินบนสะพานกระจกได้ โดยท่านต้องชำระค่าถุงครอบรองเท้าเอง)นำท่านเดินทางกลับเมืองเบตง

เช้า

บริการอาหารเช้าอาหาร​เช้า​ที่​เจ๊​กิ้​ว​ (มื้อที่3)
หลังอาหารเช้านำคณะเที่ยวชมสวนดอกไม้เมืองเบตง ซึ่งเป็นสวนดอกไม้เมืองหนาว     แห่งเดียวที่มีอยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทย ชมดอกไม้เมืองหนาวนานาชนิด ณ สวนดอกไม้ที่ตั้งอยู่ในหุบเขาในระดับอุณหภูมิ 22 - 28 องศาเซลเซียส
แวะชิมเฉ๊าก๊วยในแบบฉบับสูตรของเบตง ซึ่งมีกลิ่นหอม มีสรรพคุณด้านการแก้ร้อนใน เนื้อยังเหนียวและนุ่มด้วย โดยจะหั่นเป็นลักษณะรูปลูกเต๋า ราดด้วยน้ำเชื่อมที่ทำจากน้ำตาลทรายขาว หรือน้ำตาลทรายแดง และใส่น้ำแข็งเพิ่มความสดชื่น                
จากนั้นนำคณะเที่ยวชมอุโมงค์ปิยมิตร ในอดีตเคยเป็นฐานที่มั่นของโจรจีนคอมมิวนิสต์มาลายา โดยอุโมงค์นี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นหลุมหลบภัยจากการโรมตีของระเบิด และการโจมตีทางอากาศ ตัวอุโมงค์มีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ภายในอุโมงค์มีห้องพัก ห้องพยาบาล ห้องประชุม และห้องอาหาร สามารถจุคนได้ 300-400 คน ใช้เวลาขุดอุโมงค์ราวสามเดือน ด้วยกำลังพล 30 คน  ชมพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงภาพถ่าย และยุทธปัจจัยของโจรจีนคอมมิวนิสต์ในอดีต ที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์     เพื่อบอกเล่าเรื่องราวในอดีตของพวกเขา....เมื่อเสร็จจากการเที่ยวชมอุโมงค์ปิยมิตร ชม ต้นไทรใหญ่พันปี
ต้นไทรที่มีอายุกว่าพันปี นับเป็นหนึ่งในต้นไม้ยักษ์ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดทางภาคใต้ของไทย....จากนั้นนำคณะสู่ที่ตั้งอยู่ห่างจากอุโมงค์ปิยมิตรราว 6 กิโลเมตร นับเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์ที่มีน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ที่อุดมด้วยแร่ธาตุ ด้วยอุณหภูมิราว 80 องศาเซลเซียส และสามรถนำไข่ดิบไปต้มให้เดือดภายในเวลา 7 นาทีบริเวณบ่อน้ำเดือด ที่นี่ยังเป็นที่นิยมสำหรับชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงและนักท่องเที่ยวที่นิยมมาอาบน้ำแร่ หรือแช่เท้าในบ่อน้ำแร่ ซึ่งจะช่วยให้เลือดในร่างกายหมุนเวียนได้ดี รักษาโรคผิวหนัง ฮ่องกงฟู๊ต อีกทั้งยังมีสรรพคุณทำให้ผิวพรรณดีอีกด้วย

เที่ยง

บริการอาหารกลางวัน ณ อาหาร​เที่ยง​ที่​โกหงิ่ว ปลา​นิล​น้ำ​ไหล​ (มื้อที่4)(ร้านอาหารจีนชื่อดังเมืองเบตง)
จากนั้นนำคณะเดินทางสู่ วัดพุทธาธิวาส หรือวัดเบตง เป็นวัดพุทธขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเนินในสูงในเขตเทศบาลเมืองเบตง มีเจดีย์ที่มีความสูง 39.9 เมตรตั้งอยู่บนเนินเขาภายในบริเวณวัด ภายในเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ถูกสร้างขึ้นถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในวโรกาสพระชนมายุครบ 60 พรรษา นอกจากนี้ท่านยังสามารถสักการะองค์พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ปางมารวิชัยองค์ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ที่ตั้งประดิษฐานภายในบริเวณวัดอีกด้วย.....
จากนั้นนำคณะเที่ยวชมจุดที่น่าสนใจของเมืองเบตง อาทิ ถ่ายรูปคู่กับป้าย OK BETONG  ถ่ายรูปคู่กับรูปปั้นไก่เบตง ชมและถ่ายรูปกับ Street Art ที่มีอยู่หลายจุดในเขตเทศบาลเมืองเบตง (Street Art ทางทัวร์จะพาชมจุดที่สวยที่สุดเพียงสองจุด ที่เหลือนักท่องเที่ยวสามารถเดินชมด้วยตัวเองในช่วงค่ำ)
ถ่ายรูปกับตู้ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก สัญญาลักษณ์ของเมืองเบตงผ่านชม ซึ่งเป็นอุโมงค์ลอดภูเขาแห่งแรกของภาคใต้ (ท่านสามารถเดินชมอุโมงค์นี้ด้วยตัวเองในช่วงหัวค่ำ ซึ่งอุโมงค์จะประดับด้วยหลอดไฟที่ให้แสงระยิบระยับเป็นประกายแสงที่น่าชมในยามราตรี) จนควรแก่เวลา นำคณะเข้าสู่โรงแรมที่พัก ให้ท่านพักผ่อนก่อนรับประทานอาหารเย็น

เย็น

บริการอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร​เย็น​ต้า​เ​หยิน​หรือ​เชียงการีล่า (มื้อที่5)
หลังอาหารนำคณะเดินทางเข้าที่พัก ณ โรงแรม Grandview Landmark Hotel​

เช้า

บริการอาหารเช้า ณ ร้านอาหาร ลิ้มรสติ๋มซำต้นตำหรับของเบตง (มื้อที่6)
หลังอาหารนำคณะสู่ด่านชายแดนไทย – มาเลเซีย ซึ่งเป็นด่านที่ตั้งอยู่ปลายด้ามขวานหรือใต้สุดแดนสยาม นำคณะผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง เพื่อเดินทางสู่เมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย โดยมีไกด์ท้องถิ่นประเทศมาเลเซียรอรับอยู่ฝั่งประเทศมาเลเซีย จากนั้นทำคณะเดินทางสู่เมืองปีนัง (โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เวลาของประเทศมาเลเซียจะเร็วกว่าเวลาของประเทศไทย 1 ชั่วโมง เมื่อคณะเดินทางถึงเมืองปีนังหรือ รัฐปีนัง หรือ ปูเลาปีนัง เป็น 1 ใน 13 รัฐ ที่ประกอบขึ้นเป็นสหพันธรัฐมาเลเซีย เดิมชาวมาเลย์รุ่นแรกเรียกว่า ปูเลาวาซาตู หรือเกาะเดี่ยว ต่อมาพบในแผนที่เดินเรือ เรียกว่า ปูเลาปีนัง หรือเกาะหมาก รัฐปีนังประกอบด้วยพื้นที่ 2 ส่วน ได้แก่ เกาะปีนัง ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากแผ่นดินใหญ่ทางชายฝั่งตะวันตกของประเทศ และเป็นที่ตั้งของ จอร์จทาวน์ (George Town) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐ และเซเบอรังเปอไร (สมารังไพร) ซึ่งตั้งอยู่บนชายฝั่ง มีสมญาว่า "ไข่มุกแห่งบูรพาทิศ"

เที่ยง

บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร  (มื้อที่7)
นำคณะเที่ยวชม ปีนังฮิลล์ (Penang Hill)โดยรถรางไฟฟ้า ปีนังฮิลล์อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 830 เมตร เป็นจุดสูงสุดของเกาะปีนัง เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ของตัวเมืองและเกาะปีนังแบบกว้างไกลสุดสายตา โดยรถรางไฟฟ้าที่ขึ้นสู่ปีนังฮิลล์นั้น ถือว่าเป็นรถรางสายแรกในเอเชีย สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1923 โดยบริษัทรถรางสัญชาติสวิส ต้องเปลี่ยนรถ 1 ครั้งกลางทาง ใช้เวลาในการเดินทางทั้งสิ้น 30 นาที ระหว่างทางท่านจะเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ สลับกับพืชพันธุ์ต่างๆ ที่ขึ้นอยู่เต็มตลอดเส้นทาง           
นำชมวัด วัดเก็กลกสี่ (Kek Lok Si Temple หรือ Temple of Supreme Bliss) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1893 เป็น วัดพุทธที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นหนึ่งในวัดดังของเกาะปีนัง  สิ่งที่น่าสนใจอื่นๆ ภายในวัด เช่น หอสวดมนต์ เจดีย์ หอระฆัง สระเต่า และสิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือ เจดีย์สมเด็จพระรามหก (เจดีย์พระพุทธเจ้า 10,000 พระองค์) สร้างในปี ค.ศ. 1930 ตกแต่งด้วยพระพุทธรูปสำริดและพระพุทธรูปศิลาขาวทั้งหมด 10,000 องค์ เป็นความผสมผสานระหว่างนิกายมหายานและหินยาน ฐานเจดีย์สร้างแบบจีน ตัวเจดีย์สร้างแบบไทย และยอดเจดีย์สร้างแบบพม่า และยังมีรูปหล่อเจ้าแม่กวนอิมสำริดสูง 30.2 เมตร

เย็น

บริการอาหารเย็น ณ ร้านอาหารซีฟู้ด (มื้อที่8)
หลังอาหารนำคณะเดินทางสู่โรงแรมที่พัก ณ NEO+ HOTEL ในจอร์จทาวน์ ปีนัง

เช้า

บริการอาหารเช้า ณ ร้านอาหาร ลิ้มรสบะกู้ดเต๋สูตรต้นตำหรับ (มื้อที่9)
หลังอาหารนำท่านเดินชมย่านเมืองเก่า จอร์จทาวน์ (George Town) นำท่านเดินชมสตรีทอาร์ตเมืองจอร์จ ทาวน์ ซึ่งเป็นถนนสายโบราณที่เต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างโบราณ และภาพเขียนบนผนัง ที่เป็นเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือน ท่านยังจะได้พบกับรถลากที่เป็นที่นิยมในศตวรรษที่ 18 ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นพาหนะที่บริการนักท่องเที่ยว ปัจจุบันย่านเมืองเก่าจอร์จ ทาวน์ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม.....จากนั้นนำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์ บ้าบ๋า ย่าหยา (Pinang Peranakan Museum) เป็นคฤหาสน์หรูโบราณที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1890 เจ้าของคฤหาสน์เป็นคหบดีชาวจีนที่มาตั้งรกรากในปีนัง ภายในตกแต่งอย่างหรูหราประณีตสไตล์ พารานากัน ซึ่งเป็นชื่อเรียกชาวจีนโพ้นทะเลที่มาตั้งรกรากและแต่งงานกับคนพื้นเมืองมาลายา จนเกิดเป็นวัฒนธรรมแบบผสมระหว่างจีนและมาลายา จนกลายเป็นวัฒนธรรมที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์ของปีนัง ภายในบ้านได้รับการตกแต่งแบบจีนผสมมาลายา มีการจัดแสดงทั้งห้องโถง ห้องรับแขก ห้องนอน ห้องครัว ซึ่งล้วนสะท้อนวิถีชีวิตของชาว พารานากันในยุคก่อนได้อย่างดี และที่สำคัญภายในบ้านยังมีมุมถ่ายรูปสวยเก๋แบบ Vintage สุด ๆ 

เที่ยง

บริการอาหารเที่ยง ณ ร้านอาหาร พารานากัน  (มื้อที่10)
หลังอาหารนำคณะสู่ Gurney Plaza แหล่งช้อปปิ้งชื่อดังย่านถนนเกอนี่ ให้ท่านเพลิดเพลินกับการเดินชมและช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมและของที่ระลึกมากมายภายในห้างแห่งนี้  จนสมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่สนามบิน เพื่อทำการเช็คอินโหลดสัมภาระก่อนบิน 

18.55 น.

เดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินของสายการบินไทยไทยแอร์เอเชียเที่ยวบินที่ FD322

19.25 น.

เดินทางถึง ท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิ์ภาพ พร้อมความประทับใจ